ประวัติดอกทานตะวัน

ประวัติดอกทานตะวัน



ณ โบสถ์ในชนบทแห่งหนึ่งมีสาวงามผู้หนึ่งชื่อไคลธี่ เธอเป็นหญิงสาวที่มีความงดงามมาก แต่เพราะความงดงามนั้นบิดาของเธอจึงกักขังลูกสาวคนเดียวของตนไว้ในโบสถ์ ไคลธี่โดนกักขังในห้องหนึ่งซึ่งในห้องของเธอมีเพียงหน้าต่างบานหนึ่งที่สาดแสงอบอุ่นสีเหลืองเข้าภายในห้องของเธอ ไคลธี่ปราถนาที่จะได้เห็นที่มาของแสงนั้นมาก วันหนึ่งไคลธี่ตื่นขึ้นมาและได้พบว่าทหารยามไม่ได้อยู่เฝ้าไคลธี่จึงตัดสินใจออกจากห้องของเธอ ในขณะเดียวกันเทพอพอลโล(เทพแห่งดวงอาทิตย์)ก็ได้ขึ้นรถม้าขี่ไปทั่วท้องฟ้าเพื่อให้ความสว่างและอบอุ่นแก่โลกของมนุษย์ ทันทีที่ไคลธี่ได้เห็นชายหนุ่มรูปงามที่ประทับอยู่บนรถม้าทำให้เธอตกหลุมรักเทพอพอลโลเข้าทันที หลังจากวันนั้นไคลธี่ก็หนีออกมาจากห้องเธอทุกวันโดยไม่สนใจว่าตนเองจะโดนทำโทษหนักหนาสาหัสเพียงใด ในที่สุดไคลธี่ก็ตัดสินใจหนีออกจากบ้านด้วยความรักอันมั่นคงที่ตนมีต่อเทพอพอลโล ไคลธี่ได้อฐิษฐานกับทวยเทพทั้งหลายว่า ด้วยความรักที่นางมอบให้ชายคนหนึ่งด้วยความบริสุทธิ์ใจตลอดมา หากเธอลับลาไปขอให้เธอได้เป็นทวยเทพแห่งผกา ที่ตั้งมั่นอยู่ตราบสิ้นแสงอัจจิมาตลอดกาล หลังจากเจ้าหญิงไคลีสิ้นลม เรียวขาของเธอได้หยั่งรากลึกลงไปในพื้นพสุธา แขนและลำตัวก็กลับกลายเป็นลำต้นใบไม้เขียว ใบหน้าอันอ่อนหวานกลับกลายเป็นสีน้ำผึ้ง เส้นผมไหมสีทองของเธอกลับกลายเป็นกลีบดอกไม้สีเหลืองสดใส คอยแหงนมองเทพแห่งดวงอาทิตย์ไปทุกแห่งหนโดยไม่มีทางเหน็ดเหนื่อยและจะคอยหัน มองตลอดจนกว่าดวงอาทิตย์ของเธอจะลาลับจากคุ้งขอบฟ้า ด้วยความรักและความภักดีตลอดกาล 



ชื่่อ Helianthus มาจากคำว่า helios ที่แปลว่าดวงอาทิตย์ กับคำว่า anthos ที่แปลว่า ดอกไม้ ที่งดงามมาก
 
ทานตะวันเป็นดอกไม้สีเหลือง ดอกใหญ่กว่าดอกรักเร่เป็นที่สะดุดตามากบางทีดอกจะใหญ่กว่าลำต้นเสียด้วยซ้ำ แทบจะไม่สมดุลกันเลย นิยมปลูกเป็นแปลง เป็นไม้ที่ปลูกง่ายและโตเร็ว เมื่อออกดอกแล้วดอกจะหันไปทางทิศตะวันออก เป็นการทานตะวัน ไม่หันไปทางทิศอื่น จึงได้ชื่อว่า ดอกทานตะวัน และเป็นพืชน้ำมันที่มีความสำคัญพืชหนึ่ง น้ำมันที่ได้จากการสกัดจากเมล็ดทานตะวันจะมีคุณภาพสูง ที่ประกอบด้วยกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว เช่น กรดลิโนเลนิค หรือกรดลิโนเลอิค ที่จะช่วยลดโคเลสเตอร์รอลที่เป็นสาเหตุของโรคไขมัน อุดตันในเส้นเลือด นอกจากนี้น้ำมันจากทานตะวันยังประกอบด้วยวิตามิน เอ ดี อี และเคด้วย ผลผลิตส่วนใหญ่อยู่ในเขตอบอุ่น เช่น สหภาพโซเวียต อาร์เจนตินา และประเทศในแถบยุโรปตะวันออก สำหรับประเทศไทย ได้มีการส่งเสริมให้มีการปลูกทานตะวันเป็นอาชีพเสริมมากขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิตให้เพียงพอกับอุตสาหกรรมพืชน้ำมัน และความต้องการของผู้บริโภค ทั้งนี้ เพราะทานตะวันเป็นพืชที่มีอายุสั้นระบบรากลึก มีความทนทานต่อสภาพแห้งแล้งได้ดีกว่าพืชอื่น ๆ


 
แหล่งปลูกที่สำคัญได้แก่ จังหวัดลพบุรี เพชรบูรณ์ และสระบุรี ทานตะวันเป็นพืชที่มีการปรับตัวเข้ากับสภาพของเขตร้อนได้ดีพอสมควรไม่ไวต่อแสง สามารถออกดอกให้ผลได้ทุกสภาพช่วงแสง ปลูกได้ในบริเวณที่มีการปลูกข้าวโพด ข้าวฟ่าง เมื่อทานตะวันตั้งตัวได้แล้ว จะมีความทนทานต่อสภาพแห้งและร้อนได้พอสมควร และจะเริ่มเติบโตทันทีเมื่อมีฝน นอกจากนี้ทานตะวันยังมีความทนทานต่อสภาพอากาศเย็นจัดได้ดีกว่าข้าวโพด ข้าวฟ่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะต้นกล้า ทานตะวันขึ้นได้กับดินหลายประเภท แต่จะขึ้นได้ดีในสภาพดินที่มีผิวดินหนาและอุ้มความชื้นไว้ได้ดี สามารถทนต่อสภาพความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ตลอดจนสภาพดินเกลือและเป็นด่างจัดได้พอสมควร ซึ่งดินเหล่านี้จะมีอยู่เป็นจำนวนมากในเขตแห้งแล้งทั่ว ๆ ไป


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประวัติดอกไฮยาชิน

ประวัติดอก Forget Me Not

ประวัติดอกลิลลี่สีขาว